อนุสาขารังสีร่วมรักษาของลำตัว (Body Interventional Radiology)
 
หลักสูตร
- หลักสูตรการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านเพื่อวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพเวชกรรม อนุสาขารังสีร่วมรักษาของลำตัว คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2566


ผลสัมฤทธิ์ของแผนงานฝึกอบรม    
 
5.1 การบริบาลผู้ป่วย (Patient care)
การบริบาลโดยใช้ผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รวม คำนึงถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัย รวมทั้งสามารถปฏิบัติงานในสาขารังสีร่วมรักษาของลำตัวได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีการกำกับดูแล ประกอบด้วย
  1. ทักษะในการให้คำปรึกษาแนะนำ (Counseling) และมีทักษะในการขอความยินยอม (Obtaining informed consent) เกี่ยวกับการตรวจทางภาพรังสีวินิจฉัย การทำหัตถการทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวให้แก่ผู้ป่วยและญาติ
    รวมถึงแพทย์สาขาอื่นได้อย่างเหมาะสมกับข้อบ่งชี้ของโรค โดยยึดถือผู้ป่วยเป็นศูนย์กลางบนพื้นฐานของการดูแลแบบองค์รวม คำนึงถึงประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความเสี่ยงและประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นหลัก
  2. มีทักษะในการเตรียมและดูแลผู้ป่วยที่มารับการตรวจวินิจฉัยและทำหัตถการทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวได้อย่างเหมาะสม ทั้งก่อนทำ ขณะทำและหลังทำการรักษา
  3. มีทักษะในการตรวจพบภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นระหว่างการตรวจวินิจฉัย และการทำหัตถการทางรังสีร่วมรักษาของลำตัว และสามารถให้การดูแลรักษาเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม หรือปรึกษาแพทย์ในสาขาอื่นต่อได้ถูกต้องเมื่อจำเป็น
5.2 ความรู้และทักษะหัตถการเวชกรรม (Medical knowledge and procedural skills) สามารถทำเวชปฏิบัติได้อย่างครอบคลุมและเหมาะสม
  1. มีความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และมีทักษะในการวิเคราะห์แปลผลข้อมูลทางคลินิก รวมถึงภาพการตรวจทางรังสีวิทยา เพื่อประยุกต์ใช้ในการวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาที่ถูกต้อง
  2. มีความรู้และทักษะพื้นฐานในการตรวจและรายงานผลทางรังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษาของลำตัว
  3. รู้ข้อบ่งชี้ ข้อห้าม ข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัด ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนในการตรวจทางรังสีร่วมรักษาของลำตัว
  4. มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ และมีทักษะในการทำหัตถการของรังสีร่วมรักษาของลำตัว รวมถึงทักษะในการแก้ไขภาวะแทรกซ้อนได้อย่างเหมาะสม
  5. มีความรู้ทางคลินิกด้านอื่นๆ ที่ช่วยในการดูแลผู้ป่วยได้ด้วยตนเองทั้งก่อนทำ ขณะทำและหลังทำหัตถการทางรังสีร่วมรักษาของลำตัว  ตลอดจนการติดตามดูแลผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
 
5.3 ทักษะระหว่างบุคคลและการสื่อสาร (Interpersonal and communication skills)
  1. สื่อสารให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยและญาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีเมตตาเคารพการตัดสินใจและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์
  2. สื่อสารให้ข้อมูลโดยการรายงานผลการตรวจเป็นเอกสาร (reports) หรือด้วยวาจา กับผู้ป่วยและญาติ รวมถึงทีมดูแลสุขภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  3. นำเสนอข้อมูลผู้ป่วย และอภิปรายปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. เป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำ รวมถึงถ่ายทอดความรู้ทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวให้แก่แพทย์ นักศึกษาแพทย์ และบุคลากรอื่น
  5. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี มีความสามารถในการทำงานเป็นทีมร่วมกับสหวิชาชีพและผู้ร่วมงานทุกระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5.4 การเรียนรู้และการพัฒนาจากฐานการปฏิบัติ (Practice-based learning and improvement)
  1. มีความสามารถในการเรียนรู้และเพิ่มประสบการณ์จากการปฏิบัติงานในหน่วยงาน รวมทั้งปฏิบัติงานแบบสหวิชาชีพหรือเป็นทีมได้อย่างเหมาะสม
  2. ดำเนินการวิจัยทางการแพทย์และสาธารณสุขได้
  3. วิพากษ์บทความ และงานวิจัยทางการแพทย์ได้
5.5 ความสามารถในการทำงานตามหลักวิชาชีพนิยม (Professionalism) รวมทั้งคุณลักษณะของความเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต (continue medical education) หรือการพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง (continue professional development)
โดยแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมแห่งวิชาชีพที่ดีของแพทย์ดังนี้
  1. คำนึงถึงหลักการและเคารพในสิทธิผู้ป่วย ไม่เลือกปฏิบัติต่อผู้ป่วย (เพศ เชื้อชาติ ศาสนา)
  2. มีคุณธรรม จริยธรรม และเจตคติอันดีต่อผู้ป่วย ญาติ ผู้ร่วมงาน เพื่อนร่วมวิชาชีพและชุมชน
  3. มีทักษะด้านที่ไม่ใช่เทคนิค (non-technical skills) และสามารถบริหารจัดการได้
  4. มีความสนใจใฝ่รู้ และสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นผู้เรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต (continue professional development)
  5. มีทัศนคติที่ดีต่อวิชาชีพและมีเจตคติที่ดี ที่จะใช้ความรู้ทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวในการให้บริการสุขภาพแบบองค์รวมแก่ประชาชนทุกระดับ
  6. มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
  7. คำนึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
5.6 การทำเวชปฏิบัติให้สอดคล้องกับระบบสุขภาพ (System-based practice)
  1. สามารถปฏิบัติงานเข้ากับระบบงานทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวได้อย่างเหมาะสม รวมถึงมีความรู้และมีส่วนร่วมด้านการประกันคุณภาพ (quality assurance) และระบบพัฒนาคุณภาพ (quality improvement) การดูแลผู้ป่วยทางรังสีร่วมรักษาของลำตัว
  2. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสุขภาพของประเทศ
  3. มีความเข้าใจกระบวนการในการกำกับดูแลความปลอดภัยทางด้านรังสี (radiation safety) ต่อทั้งผู้ป่วย ญาติ บุคลากรที่เกี่ยวข้อง
  4. ใช้ทรัพยากรสุขภาพอย่างเหมาะสม (cost consciousness medicine) สามารถพิจารณาต้นทุน ความเสี่ยงและประโยชน์ในการเลือกตรวจรักษาทางรังสีร่วมรักษาของลำตัวได้อย่างเหมาะสม และสามารถปรับเปลี่ยนการดูแลรักษาผู้ป่วยให้เข้ากับบริบทของการบริการสาธารณสุขได้ตามมาตรฐานวิชาชีพ

เมื่อ: 15 พ.ย. 67, 11:25 น. เข้าชมทั้งหมด: 67 ครั้ง